Au bout de quelques mois en 1867, i

Au bout de quelques mois en 1867, il quitte la Suisse pour venir travailler à Paris au moment de l'exposition universelle. Il débute sa carrière dans des restaurants comme serveur puis comme sommelier. Il exerce au grand hôtel parisien « Le Splendide », puis devient maître d'hôtel « Chez Voisin », un grand restaurant parisien qui doit fermer à la suite de la guerre de 1870. Dans cette dernière place, il côtoie le Tout-Paris de l'époque, ce qui fut pour lui une excellente école de psychologie sociale.

En 1873 il travaille à l'exposition universelle de Vienne lorsqu'il rencontre pour la première fois le prince de Galles. Après cinq années dans les restaurants, il se tourne vers l'hôtellerie. Il prend le poste de directeur d'un hôtel de Menton, sur la « riviera » française, à une époque où les anglais les plus riches venaient y passer l'hiver. Lors des années suivantes, il va naviguer entre Nice, Locarno et San Remo.

En 1877, il devient le directeur de l'hôtel National de Lucerne (devenu Grand Hôtel National en 1899). Pour l'hiver 1877-1878, il prend le poste de directeur de l'hôtel des Îles britanniques de Menton, propriété des Rosnobet. Il y rencontre celle qui deviendra sa femme et qui, pour lors, n'a que 10 ans, Marie-Louise Beck, fille d'un hôtelier alsacien qui tient une maison à Menton. À l'été 1878, il est de retour à l'hôtel National de Lucerne et fait un voyage pour visiter l'exposition universelle de 1878 qui se tient alors à Paris. Durant l'hiver 1878-1979, il travaille pour l'hôtel Bellevue, à Enghien-les-Bains, puis retourne à Lucerne pour la saison d'été. Désireux de lancer sa propre affaire, il fait ses armes en louant, pour l'hiver 1879-1880, le buffet du Jardin d'acclimatation du bois de Boulogne. Cette expérience l'ayant enthousiasmé, et après être retourné à Lucerne pour l'été 1880, il s'associe avec Ehrensberger, le directeur de l'Hôtel Splendid de Paris. Ensemble, ils acquièrent l'hôtel des Roches Noires à Trouville, en Normandie. Il y engouffre ses économies. L'expérience est un échec mais Ritz y a acquis la certitude qu'un grand hôtel nécessite un grand chef. Il débauche Jean Giroix et retourne à l'hôtel National de Lucerne pour la saison d'été 1881. Pour l'hiver 1881-1882, Alexandrine Yungbluth, parente des Rosnobet de Menton et tante de Marie-Louise Beck, lui propose le poste de directeur général du Grand Hôtel de Monte-Carlo, qu'elle et son mari possèdent. Dès lors, entre 1882 et 1887, César Ritz passe ses étés à Lucerne et ses hivers à Monte-Carlo. Pionnier du développement de la grande hôtellerie de luxe, il sait séduire la clientèle aisée et acquiert rapidement une réputation de bon goût et d'élégance. C'est l'avènement, en cette fin du XIXe siècle, de l'hôtellerie de luxe, notamment dans les régions touristiques et dans les grandes villes. Parmi la clientèle qu'il côtoyait, beaucoup de rentiers et d'hommes d'affaires, mais surtout beaucoup d'aristocrates — têtes couronnées et grandes dames — qui menaient encore la haute société. Il organisa de nombreuses fêtes mondaines qui commencèrent à établir sa réputation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากไม่กี่เดือนใน 1867 เขาออกจากสวิตเซอร์แลนด์มาทำงานในปารีสในเวิลด์เอ็กซ์โป เขาเริ่มอาชีพของเขาในร้านอาหารเป็นเซิร์ฟเวอร์และ sommelier ออกกำลังกายในแกรนด์โฮเทลปาริเซียน "เลอ Splendide" เขาเป็น maître d 'โฮเทล "เพื่อนบ้าน" ปารีสร้านอาหารที่ต้องปิดสงครามของศาสตร์ ในนี้สุดท้าย เขาช่างไหล่กับ crème เวลา ถูกสำหรับเขาที่คณะจิตวิทยาสังคมที่ดีใน 1873 เขาทำงานเอ็กซ์โปเวียนนาเมื่อเขาได้พบเป็นครั้งแรกปริ๊นซ์ออฟเวลส์ หลังจากห้าปีในร้านอาหาร เขาเปิดโรงแรม เขาได้ตำแหน่งกรรมการของโรงแรมในมองตอง ในฝรั่งเศส 'ริเวียร่า" ครั้งที่อังกฤษรวยมาใช้ฤดูหนาว ในช่วงปีต่อไปนี้ มันจะนำทาง ระหว่างนีซ โลการ์โนซานเรโมใน 1877 เขาเป็นกรรมการแห่งชาติโรงแรมในลูเซิร์น (ตอนนี้แกรนด์โรงแรมชาติใน) สำหรับฤดูหนาวของ 1877-1878 เขาเอาตำแหน่งกรรมการของโรงแรมในอังกฤษของคาง เจ้า Rosnobet มีเขาตรงที่จะมาเป็นภรรยา และที่ แล้ว มีเพียง 10 ปี มารีหลุยส์เบ็ค ลูกสาวยึด Alsatian ที่รักษาบ้านในมองตอง ในฤดูร้อน 1878 เขากลับมาในชาติโรงแรมในลูเซิร์น และทำการเดินทางไปเข้าชมนิทรรศการของ 1878 สากลซึ่งจะจัดขึ้นในปารีสแล้ว ในระหว่างฤดูหนาวค.ศ. 1878-1979 เขาทำงานโรงแรมเบลเลวู Enghien แล้วส่งกลับไปยังลูเซิร์นสำหรับฤดูร้อน อยากเริ่มต้นธุรกิจของเขา เขาได้เปิดตัวครั้งแรกของเขาในการจ้าง สำหรับฤดูหนาวของ 1879-1880 บุฟเฟ่ต์บูลอยน์จาร์ดีน d'Acclimatation ดูบัวส์เดอ นี้พบมีการรู้สึกตื่นเต้น และหลังจากถูกส่งกลับไปลูเซิร์นสำหรับฤดูร้อน 1880 เขาร่วมกับ Ehrensberger กรรมการสเปลโรงแรมในปารีส กัน พวกเขามา Noires โรงแรมรีที่ Trouville ตาย เขา rushes ของเขาประหยัด การทดลองล้มเหลว แต่ริทซ์ได้มาแน่นอนที่ดีต้องเป็นผู้นำที่ดี เขา debauchery ฌอง Giroix และกลับไปแห่งชาติโรงแรมในลูเซิร์นสำหรับฤดูร้อน 1881 สำหรับฤดูหนาวของ 1881-1882, Alexandrine Yungbluth หลักของ Rosnobet ชิ้นและป้าของมารีหลุยส์เบ็ค เขานำเสนองานของอธิบดีของแกรนด์ใน Monte Carlo เธอและสามีได้ ดังนั้น 1882 และ 1887, César Ritz ใช้ฤดูของเขาในลูเซิร์นและความหนาวใน Monte Carlo ผู้บุกเบิกในการพัฒนาธุรกิจโรงแรมหรูขนาดใหญ่ เขารู้มั่งมีดึงดูด และได้ฝึกฝนชื่อเสียงดีและสง่างามได้อย่างรวดเร็ว นี้เป็นมา ที่จุดสิ้นสุดของศตวรรษที่ 19 หรูในธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานที่ท่องเที่ยว และ ในเมืองใหญ่ ลูกค้าที่เขา rubbed ไหล่ หลายคนกินเงินบำนาญและนักธุรกิจ แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลาย aristocrats - หัวมงกุฎและผู้หญิงใหญ่ - ที่ยังคงถูกทำสังคมสูง เขาจัดเทศกาลสังคมจำนวนมากที่เริ่มสร้างชื่อเสียงของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากไม่กี่เดือนใน 1867 เขาออกจากวิตเซอร์แลนด์ที่จะมาทำงานในกรุงปารีสในงานเวิลด์แฟร์ เขาเริ่มอาชีพของเขาในร้านอาหารเป็นพนักงานเสิร์ฟและจากนั้นก็เป็น Sommelier มันออกกำลังกายโรงแรมปารีสที่ดี "Le Splendide" แล้วจะกลายเป็นบริกร "ที่ Voisin" ซึ่งเป็นร้านอาหารในกรุงปารีสควรปิดหลังสงครามของ 1870 ในสถานที่สุดท้ายนี้, เขาได้พบกับทุกปารีส เวลาเป็นสิ่งที่สำหรับเขาที่โรงเรียนจิตวิทยาสังคมที่ดีเยี่ยม. ใน 1,873 เขาทำงานที่กรุงเวียนนาเวิลด์แฟร์เมื่อมันตรงเป็นครั้งแรกของเจ้าชายแห่งเวลส์ หลังจากห้าปีในร้านอาหารเขาหันไปอุตสาหกรรมโรงแรม เขาเอาตำแหน่งของผู้อำนวยการของโรงแรมในเมนตันใน "ริเวียร่า" ฝรั่งเศสในช่วงเวลาที่ภาษาอังกฤษที่ร่ำรวยที่สุดมาที่จะใช้จ่ายในช่วงฤดูหนาว ในปีต่อ ๆ มาเขาจะแล่นเรือระหว่างนีซ, โลคาร์โนและ San Remo. ใน 1877 เขาก็กลายเป็นผู้อำนวยการของลูเซิร์นโรงแรมแห่งชาติ (ตอนนี้โรงแรมแกรนด์แห่งชาติในปี 1899) สำหรับฤดูหนาว 1877-1878 เขาเอาตำแหน่งของผู้จัดการโรงแรมของทรัพย์สินเกาะอังกฤษเมนตัน Rosnobet ที่นั่นเขาได้พบกับคนที่จะกลายเป็นภรรยาของเขาและผู้ที่แล้วเพียง 10 ปี, หลุยส์มารีเบ็คลูกสาวของโรงแรมอัลเซเชี่ยนถือบ้านในเมนตัน ในฤดูร้อนปี 1878 ที่เขาจะกลับมาที่โรงแรมแห่งชาติในลูเซิร์นและทำให้การเดินทางไปเยี่ยมชมงาน World Expo 1878 จะถูกจัดขึ้นในกรุงปารีส ในช่วงฤดูหนาว 1878-1979 เขาทำงานให้กับแบลใน Enghien-les-Bains แล้วกลับไปที่ลูเซิร์นสำหรับฤดูร้อน กระตือรือร้นที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเขาเริ่มอาชีพของเขาโดยการให้เช่าสำหรับฤดูหนาว 1879-1880 ที่เคยชินกับสภาพบุฟเฟ่ต์สวนบัวส์เดอบูโลญ ประสบการณ์นี้ด้วยความกระตือรือร้นและหลังจากกลับไปที่ลูเซิร์นสำหรับฤดูร้อน 1880 ที่เขาร่วมมือกับ Ehrensberger ผู้อำนวยการของ Splendid โรงแรมในปารีส ร่วมกันพวกเขาได้รับ Hotel des Roches Noires ที่ Trouville, นอร์มั เขารีบวิ่งไปที่เงินฝากออมทรัพย์ของเธอ การทดลองนี้เป็นความล้มเหลว แต่มีริทซ์เป็นที่พอใจว่าเป็นโรงแรมที่ดีต้องมีผู้นำที่ยิ่งใหญ่ มันมึนเมาฌอง Giroix และกลับไปที่โรงแรมแห่งชาติในลูเซิร์นสำหรับฤดูร้อน 1881 สำหรับ 1881-1882 ฤดูหนาว Alexandrine Yungbluth, แม่ของ Rosnobet เมนตันและป้าหลุยส์มารีเบ็คมีตำแหน่งของเขา ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมแกรนด์ในมอนติคาร์โลเธอและสามีของเธอเป็นเจ้าของ ดังนั้นระหว่าง 1882 และ 1887, César Ritz ใช้เวลาในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวในลูเซิร์นในมอนติคาร์โล ผู้บุกเบิกในการพัฒนาของโรงแรมหรูขนาดใหญ่เขารู้เกลี้ยกล่อมร่ำรวยอย่างรวดเร็วและได้รับชื่อเสียงสำหรับรสชาติที่ดีและความสง่างาม มันเป็นปรากฎตัวในช่วงปลายศตวรรษที่สิบเก้าธุรกิจโรงแรมหรูโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวและในเมืองใหญ่ ในหมู่ลูกค้าของเขาพบบำนาญจำนวนมากและนักธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ดีจำนวนมาก - พระบรมวงศานุวงศ์และผู้หญิงที่ดี - ที่ยังคงชั้นนำของสังคมชั้นสูง เขาจัดงานเฉลิมฉลองทางสังคมจำนวนมากที่เริ่มต้นในการสร้างชื่อเสียงของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในปี 1867 เขาทิ้งสวิตเซอร์แลนด์สำหรับที่จะมาทำงานใน Paris ในเวลาที่มีการจัดงานนิทรรศการอเนกประสงค์ เขาเริ่มงานในร้านอาหารจะทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์และบริกรรินไวน์แล้วก็เป็นได้ เขาออกกำลังกายเพื่อไปยัง Grand Hotel Paris " ที่งดงาม " แล้วจะกลายเป็นนายของโรงแรม " ท่ามกลางเพื่อนบ้าน " ที่มีขนาดใหญ่ร้านอาหารตามแบบ Parisian , ซึ่งจะต้องปิดในการเริ่มการทำงานของสงครามในปี 1870 ได้ในสถานที่สุดท้ายนี้มันกลมกลืนเข้ากับกับชาวปารีสที่เวลาซึ่งสำหรับเขาเป็นที่พักที่ดีเยี่ยมในโรงเรียนของจิตวิทยาสังคมได้
2
4 1873 เขาเคยทำงานที่จัดแสดงนิทรรศการอเนกประสงค์ในกรุงเวียนนาเมื่อตรงตามเงื่อนไขเป็นครั้งแรกกับเจ้าชายแห่งเวลส์ หลังจาก 5 ปีในร้านอาหารเขาได้เปลี่ยนไปที่อุตสาหกรรมแบบไมตรีจิตร เขาใช้เวลาในการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของโรงแรมใน Menton ,