Heinz Ohff, who wrote the first com

Heinz Ohff, who wrote the first comprehensive monograph about Fritz Köthe, describes the artist's biography as exemplary of a realistic painter, whose work was neither accepted during the Third Reich nor in post-war Germany. This resulted in a sort of extended "inner emigration" for Köthe until long after 1945. His breakthrough finally came with his surrealistic dream paintings which then led to his street and poster paintings. Köthe began his career as a painter's apprentice from 1931 to 1933. Before studying at the Staatliche Akademie für graphische Künste in Leipzig from 1936 onwards, he spent one year at the Graphische Fachschule in Berlin. He returned to Berlin after completing his studies in 1938. He began exhibiting works at the first post-war exhibitions in 1946. Köthe worked at a school of fashion design and press drawing in 1947and from 1951 to 1960 he worked independently for publishers and advertising agencies. He then resumed working as an independent artist. His first traffic-sign paintings were made in 1963 and his first posters one year later. He had his first one-man-show at the Galerie Springer in Berlin. Köthe had now found his own style and began tearing-up his painted backgrounds in the form of illusionist yet realistic collages based on documents of his time. He painted relics, apparently torn randomly out of magazines - fragmentary impressions from advertisements -, invented relationships between opposing objects and thus created new contexts in his collages. Köthe himself is able to perceive the world in this era of mass media and never-ending visual impressions only with a fragmented vision. This visual situation as a reflection of our urban environment was from now on the artists intention. Since 1967 numerous exhibitions were followed by a comprehensive show of his oeuvre in Berlin 1972.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานไฮนซ์ Ohff ผู้เขียน monograph อย่างแรกเกี่ยวกับ Fritz Köthe อธิบายประวัติของศิลปินเป็นเป็นตัวอย่างของจิตรกรจริง ทำงานไม่ยอมรับ ใน แทปสาม หรือ ในเยอรมนีหลังสงคราม นี้ส่งผลให้การเรียงลำดับเพิ่มเติม 'ในประเทศ' สำหรับ Köthe นานหลังจากที่ 1945 ความก้าวหน้าของเขาก็มาพร้อมกับภาพวาดของเขาฝัน surrealistic ซึ่งแล้ว นำภาพวาดของเขาถนนและโปสเตอร์ Köthe เริ่มอาชีพของเขาเป็นเด็กฝึกงานของจิตรกรจาก 1931 ถึง 1933 ก่อนไปเรียนต่อที่ graphische ภัณฑ์ Staatliche Akademie Künste ในไลพ์ซิกจาก 1936 เป็นต้นไป เขาใช้เวลาหนึ่งปีที่ Graphische Fachschule ในเบอร์ลิน เขากลับไปเบอร์ลินจากประสบการณ์ของเขาในปี 1938 เขาเริ่มแสดงผลงานในนิทรรศการหลังสงครามครั้งแรกในปี 1946 Köthe ทำงานที่โรงเรียนออกแบบแฟชั่นและกดที่วาดใน 1947and จาก 1951 1960 เขาทำงานอย่างอิสระสำหรับสำนักพิมพ์และหน่วยงานโฆษณา เขาแล้วทำงานเป็นศิลปินอิสระ ภาพวาดเครื่องหมายจราจรของเขาครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1963 และโปสเตอร์แรกของเขาในภายหลังหนึ่งปี เขาแสดง one-man แรกของเขาที่เกอร์ Gallery ในเบอร์ลิน Köthe ตอนนี้ได้พบสไตล์ของตัวเอง และเริ่มฉีกขาดขึ้นหลังเขาทาสีในรูปของนักมายากลแต่จับแพะชนแกะจริงตามเอกสารเวลาของเขา เขาทาสีพระธาตุ เห็นได้ชัดว่าเสียหายแบบสุ่มจากนิตยสาร - ส่วนแสดงผลจากโฆษณา- วัตถุคิดความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายตรงข้าม และสร้างบริบทใหม่จับแพะชนแกะของเขาดังนั้น Köthe ตัวเองสามารถรับรู้โลกในยุคของสื่อมวลชนและการไม่แสดงเท่านั้นที่ มีวิสัยทัศน์มีการกระจายได้ สถานการณ์นี้แสดงเป็นการสะท้อนสภาพแวดล้อมของเมืองถูกจากนี้เป็นความตั้งใจของศิลปิน ค.ศ. 1967 นิทรรศการมากมายถูกตาม ด้วยการแสดงครอบคลุมการทำงานของเขาในกรุงเบอร์ลิน 1972

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไฮนซ์ Ohff ผู้เขียนเอกสารครบวงจรครั้งแรกเกี่ยวกับฟริตซ์Kötheอธิบายประวัติของศิลปินในฐานะที่เป็นแบบอย่างของจิตรกรมีเหตุผลที่มีผลงานได้รับการยอมรับทั้งในช่วงสามรีคหรือในหลังสงครามเยอรมนี นี้ส่งผลให้การจัดเรียงของการขยาย "ผู้อพยพภายใน" นานหลังKötheถึงปี 1945 เขาประสบความสำเร็จในที่สุดลูกเบี้ยวด้วยภาพวาดฝันดวงไฟของเขาใครมีลูกชายคนหนึ่งจากนั้นจึงนำสถานที่และภาพวาดโปสเตอร์ Kötheเริ่มอาชีพของเขาเป็นเด็กฝึกงานของจิตรกรจาก 1931 1933 ก่อนที่จะเรียนที่ Staatliche Akademie für graphische Künsteในไลพ์ซิกจาก 1936 เป็นต้นมาเขาใช้เวลาหนึ่งปีที่ Graphische Fachschule ในกรุงเบอร์ลิน เขากลับไปยังกรุงเบอร์ลินหลังการจบการศึกษาของเขาในปี 1938 เขาเริ่มร่วมแสดงผลงานในตอนแรกการจัดนิทรรศการหลังสงครามในปี 1946 Kötheทำงานที่โรงเรียนของการออกแบบแฟชั่นและการวาดภาพใน 1947and กด 1951-1960 เขาทำงานindépendammentสำหรับผู้เผยแพร่และหน่วยงานโฆษณา . จากนั้นเขาเริ่มทำงานในฐานะศิลปินอิสระ ครั้งแรกที่ภาพวาดการจราจรเข้าสู่ระบบของเขาถูกทำขึ้นในปี 1963 และโปสเตอร์แรกของเขาหนึ่งปีต่อมา เขามีการแสดงครั้งแรกของคนคนหนึ่งของพระองค์ที่ Galerie สปริงเกอร์ในกรุงเบอร์ลิน Kötheได้พบในขณะนี้เริ่มสไตล์ของตัวเองของเขาและการฉีกขาดขึ้นพื้นหลังทาสีของเขาในรูปแบบของนักมายากลยังปะมีเหตุผลบนพื้นฐานของเอกสารเวลาลูกชาย เขาวาดพระธาตุเห็นได้ชัดฉีกสุ่มจากนิตยสาร - การแสดงผลเป็นชิ้นเป็นอันจากการโฆษณา - วัตถุคิดค้นและความสัมพันธ์ของฝ่ายตรงข้ามสร้าง Entre ดังนั้นบริบทใหม่ในการตัดปะของเขา KOTHE ตัวเองมีความน่าเชื่อถือในการรับรู้โลกในยุคของสื่อมวลชนและการแสดงผลภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้เท่านั้นที่มีวิสัยทัศน์การแยกส่วน ตำแหน่งนี้เป็นภาพสะท้อนภาพของสภาพแวดล้อมของเมืองของเราคือจากนี้ไปความตั้งใจศิลปิน ตั้งแต่ปี 1967 การจัดนิทรรศการต่าง ๆ นานาตามมาด้วยการแสดงที่ครอบคลุมลูกชายทำงานในกรุงเบอร์ลินในปี 1972

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ohff ไฮนซ์ , ผู้เขียนหนังสือที่ครอบคลุมเกี่ยวกับฟริทซ์แรกของพิกซาร์แอนิเมชัน describes K öที่คุณของ A realistic exemplary ชีวประวัติของศิลปินที่ได้รับการยอมรับไม่ทำงานในช่วงที่สาม Reich เยอรมันในสงคราม นี้ส่งผลในชะตากรรมของผู้อพยพในการขยาย " " สำหรับ K öปี 1945 ยาวจนถึงหลัง . ลูกเบี้ยวและความก้าวหน้าของเขาในที่สุดความฝันของเขาและภาพวาดภาพเขียนของเขา surrealistic LED Street และโปสเตอร์ . . . เขาเริ่มอาชีพของเขาที่ ' ' ' ' ' ' ' S ö k ก็ฝึกงานจากปี 1931 ถึงปี 1933 พัฒนาการของรัฐในการเรียนรู้ที่ graphische K ü nste ขนสัตว์ในไลพ์ซิกปี 1936 จากบทบาทที่เขาได้ใช้เวลาหนึ่งปี fachschule ที่ graphische เบอร์ลิน เขาอยู่ในเบอร์ลินเขาจบการศึกษาในปี 1938 กลับเห็น . . . . เขาเริ่มแสดงผลงานที่จัดแสดงนิทรรศการในปี 1946 post-war first K öที่ทำงานที่ 1 ของโรงเรียนออกแบบแฟชั่นและกดปี 1960 เขาในปี 1951 1947and จากที่ทำงานอิสระสำหรับเผยแพร่และโฆษณา เขาเป็นศิลปินที่ได้ทำงานเป็น independent resumed สัญญาณจราจรภาพแรกของเขาเป็นครั้งแรกและทำในปี 1963 โปสเตอร์ของเขา เขามีการแสดงเดี่ยวครั้งแรกของเขาในเบอร์ลินที่แกลลอรี่สปริงเกอร์ K öที่ผมพบในสไตล์ของเขาเองและตอนนี้เริ่มฉีกกระดาษพื้นหลังภาพวาดของเขาในรูปแบบของนักมายากลที่รู้เรื่องจริงของหนังสือของเขาที่เขามีไฟล์ตามภาพตัดปะ ? เขาทาสีพระธาตุโดยเห็นได้ชัดว่าเป็นความประทับใจจากนิตยสาร randomly ออกมาเป็นระยะๆระหว่างมุมมองของฝ่ายตรงข้ามและ " วัตถุใหม่ที่สร้างขึ้นใน thus contexts ของเขาภาพตัดปะ . . . . . . . . . . . . . . k öตัวเองเขารู้สึกว่าโลกนี้ในยุคของสื่อกับภาพความประทับใจ never-ending เท่านั้นมือขาดวิสัยทัศน์ สถานการณ์นี้สะท้อนภาพสิ่งแวดล้อมจากเมืองบนเขาแล้วเจตนาของศิลปิน ตั้งแต่ปี 1967 ตั้งแต่แสดงเป็นจำนวนมากที่ตามมาโดย comprehensive show ของหนังสือของเขาที่เขาใช้ปี 1972 เบอร์ลิน