D'après les recherches historiques,

D'après les recherches historiques, ce dessert serait originaire de Lamotte-Beuvron en Sologne1 : les sœurs Stéphanie (1838-1917) et Caroline Tatin (1847-1911) y tenaient un restaurant, qui existe toujours sous le nom d,'Hôtel Tatin, face à la gare, fréquenté par de nombreux chasseurs. Un dimanche d'ouverture de la chasse, alors qu'elle préparait une tarte aux pommes pour un repas de chasseurs, Stéphanie, étourdie, oublia dans le feu de l'action de mettre une pâte dans le moule et l'enfourna simplement avec des pommes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามประวัติศาสตร์วิจัย ขนมนี้มาจาก Lamotte-Beuvron ใน Sologne1: น้องสาวตสเตนี่ (1838-1917) และ Tatin แคโรไลน์ (1847-1911) มีร้านอาหาร ที่ยังคง อยู่ภายใต้ชื่อ ' Tatin โรงแรม ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ บริการ ด้วยนักล่าหลาย วันอาทิตย์เปิด ขณะที่เธอเตรียมพายแอปเปิ้ลสำหรับอาหารของนักล่า ตสเตนี่ เวียนหัว ลืมในความร้อนของการดำเนินการที่ใส่แป้งที่เป็นแม่พิมพ์และ enfourna เพียงแค่มันกับแอปเปิ้ล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากการวิจัยประวัติศาสตร์ขนมนี้เป็นชนพื้นเมืองของ Lamotte-Beuvron ใน Sologne1: น้องสาวของสเตฟานี (1838-1917) และแคโรไลน์ Tatin (1847-1911) เป็นผู้ถือหุ้นร้านอาหารซึ่งยังคงอยู่ภายใต้ชื่อ, โรงแรม Tatin ตรงข้ามสถานีรถไฟแวะเวียนเข้ามาล่าสัตว์จำนวนมาก เปิดอาทิตย์ของการล่าสัตว์ในขณะที่การเตรียมพายแอปเปิ้ลสำหรับนักล่าอาหาร, สเตฟานี, มึนงงลืมในความร้อนของช่วงเวลาที่จะนำแป้งลงในกระทะและยัดเพียงกับ แอปเปิ้ล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการศึกษาวิจัยทางประวัติศาสตร์ของหวานแห่งนี้จะเป็นการเริ่มต้นใน lamotte-beuvron ในป่า Sologne 1 Sisters stephanie ( 1838-1917 )และสิ่งที่ไม่ควรพลาดคาโรไลน์( 1847-1911 )มีร้านอาหารหนึ่งร้านซึ่งยังคงมีอยู่แล้ว ภายใต้ ชื่อ d 'โรงแรมสิ่งที่ไม่ควรพลาดอยู่ตรงข้ามกับสถานีที่ใช้บริการอยู่บ่อยครั้งโดยนักล่าจำนวนมาก วันอาทิตย์สำหรับการเปิดให้การล่าสัตว์ในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวพายแอปเปิ้ลที่สำหรับอาหารของเหล่านักล่าstephanie มึนงงลืมเขาในความร้อนที่ได้รับจากการกระทำในการนำแป้งที่ในแม่พิมพ์และ enfourna ที่เรียบง่ายพร้อมด้วยแอปเปิล