อิล ดิโว่ (อิตาลี: Il Divo) คือกลุ่มศิลปินที่นำเทคนิคการร้องแบบโอเปร่าผสมผสานดนตรีแนวป๊อปในแบบโรแมนติก โดยมีวงออร์เคสตราบรรเลงประกอบ อิล ดิโว่ประสบความสำเร็จอันดับที่ 1 ในชาร์ตระหว่างประเทศกว่า 26 แห่ง ยอดขายกว่า 13 ล้านแผ่น ได้รับสถานะทองและทองคำขาวกว่า 104 รางวัลทั่วโลก อิล ดิโว่ประกอบไปด้วยสมาชิกดังต่อไปนี้
การ์โลส มารีน (เสียงต่ำ) จาก ประเทศสเปน
เดวิด มิลเลอร์ (เสียงสูง) จาก สหรัฐอเมริกา
เซบาสเตียง อีซองบาร์ (เสียงป๊อป) จาก ประเทศฝรั่งเศส
อูร์ส บือเลอร์ (เสียงสูง) จาก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประวัติ
การรวมวงดนตรี [2545-2547]
อิล ดิโว่คือวงดนตรีในโครงการของไซมอน โคเวลล์ กรรมการรายการประกวดร้องเพลงอเมริกันไอดอล (สหรัฐอเมริกา) และป๊อปไอดอล (สหราชอาณาจักร) โดยใช้เวลากว่า 2 ปีในการคัดเลือกสมาชิกวง อิล ดิโว่มีจุดเด่นที่ "เสียง" ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี, "รสนิยม" โดยอาร์มานี่ เป็นผู้สนับสนุนเครื่องแต่งกาย และ "ความโรแมนติก" อิล ดิโว่ ลงนามกับโซนี่ บีเอ็มจี ของสหราชอาณาจักร
ความคิดริเริ่มการตั้งวงอิล ดิโว่นี้ เริ่มต้นหลังจากไซมอนได้ฟังเพลงของ อานเดรอา โบเชลลี และ ซาร่าห์ ไบรท์แมน ในบทเพลง Con te partirò หรือในฉบับภาษาอังกฤษ "ไทม์ทูเซกู๊ดบาย" (อังกฤษ: Time to Say Goodbye) ไซมอนเลือกที่จะคัดเลือกสมาชิกวงจากหลายๆประเทศ (ซึ่งสมาชิกวงมาจาก สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา) ซึ่งพยายามให้เสียงเหมือน "เดอะทรีเทอเนอร์" (อันประกอบไปด้วย Plácido Domingo,José Carreras, ลูชิอาโน ปาวารอตติ)
สมาชิกทั้ง 4 ประกอบไปด้วย เดวิด มิลเลอร์ (อเมริกัน) จบการปริญญาตรีด้านการร้องเพลงและปริญญาโทด้านละครโอเปร่าจากมหาวิทยาลัยในโอไฮโอ เดวิดย้ายมาอยู่นิวยอร์กได้ 10 ปี ร้องและเล่นละครโอเปร่ามามากกว่า 45 การแสดง ล่าสุดเขาร่วมเล่นละครบรอดเวย์ของผู้กำกับ Baz Luhrman เรื่อง Puccini’s La Boheme ด้วย, เซบาสเตียง อีซองบาร์ (ฝรั่งเศส) เขาเรียนการร้องเพลงด้วยตนเอง สามารถแต่งเพลง เล่นกีตาร์และเปียโนได้ เขาอำนวยการสร้างงานให้ศิลปินฝรั่งเศสหลายคน , อูร์ส บือเลอร์ (สวิตเซอร์แลนด์) เริ่มร้องเพลงและตั้งวงร็อกของตัวเองตั้งแต่อายุ 17 ปี ที่เมือง Luzern บ้านเกิดของเขา จากนั้นเขาย้ายมาอัมสเตอร์ดัมเพื่อเรียนการร้องเพลง, การ์โบส มารีน (สเปน) ผ่านเวทีละครโอเปร่ามามากมาย โดยได้รับบทเด่นในเรื่อง Les Miserables, The Man From La Mancha และ Beauty And The Beast
ก้าวแรกแห่งความสำเร็จ [2547 - 2549]
อิล ดิโว่ วางจำหน่ายอัลบั้มแรกในชื่อ อิล ดิโว่ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2547 (ในประเทศไทยวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2548) พวกเขาทำลายสถิติกว่า 25 ปีของ Led Zeppelin ซึ่งเป็นวงเดียวที่ประสพความสำเร็จเป็นอัลบั้มอันดับ 1 โดยไม่มีการปล่อยซิงเกิล ออกเพื่อประชาสัมพันธ์เพลงแต่อย่างใด
ในปี พ.ศ. 2548 อิล ดิโว่วางจำหน่ายอัลบั้มที่ 2 "อังโกร่า" ขึ้นสู่อันดับที่ 1 ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 150,000 แผ่นภายใน 1 สัปดาห์ และในกลางปี อิล ดิโว่ได้ออกอัลบั้มคริสต์มาส เดอะคริสต์มาสคอนเลกชั่น
อิล ดิโว่ได้ขับร้องเพลงประจำการแข่งขันอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลก 2006 เพลง "เดอะไทม์ออฟอาวเวอร์ไลฟ์" กับ โทนี่ แบร็กทัน นักร้องแนวอาร์แอนด์บี แสดงในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ในการเปิดการแข่งขันและ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ในพิธีปิดการแข่งขัน ซึ่งเพลงนี้สามารถพบได้ในอัลบั้ม วอยซ์ฟรอมเดอะพีฟ่าเวิลด์คัพ และอัลบั้ม ลิบรา ของ โทนี แบรกซ์ตัน และในสหราชอาณาจักรนั้น อิล ดิโว่ แสดงถวายสมเด็จพระราชินี ในรายการ "รอยัลวาไรตี้" ในปีเดียวกันนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จในการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตกว่า 86 รอบทั่วโลก ผู้ชมกว่า 500,000 คน ใน 69 เมืองที่สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, ยุโรป และออสเตรเลีย ตามด้วยการแสดงในฐานะแขกพิเศษกับบาร์บรา สตรัยแซนด์ในการแสดงของเธอกว่า 20 การแสดงตลอดเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน
ในปลายปี พ.ศ. 2549 อิล ดิโว่ ได้ออกอัลบั้มที่ 3 ของพวกเขา เซียมเปร มีซิงเกิลวางจำหน่ายซิงเกิลแรกและซิงเกิลเดียวคือ "คารูโซ" ในปีเดียวกันนี้ อิล ดิโว่ ได้จัด คอนเสิร์ตทัวร์ 2007 ที่ไปเยือนเอเชีย, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, สหราชอาณาจักร, ยุโรป และอเมริกา
การกลับมาของอิล ดิโว่ [2551 - ปัจจุบัน]
หลังช่วงพักร้อนยาวตลอดปี พ.ศ. 2550 อิล ดิโว่ก็ได้เริ่มบันทึกเสียงเพื่อออกอัลบั้มชุดใหม่ของพวกเขา เพื่อจำหน่ายในช่วงปลายปี พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 อิล ดิโว่จะเป็นแขกรับเชิญพิเศษในคอนเสิร์ตทัวร์เทกกิงแชนเซสของ เซลีน ดิออน ในดับลิน อีกด้วย ในช่วงปลายปี อิล ดิโว่ ได้ออกจำหน่ายอัลบั้มใหม่ในชื่อ เดอะพรอมิส วางจำหน่ายในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551, ในญี่ปุ่นวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และประเทศอื่นๆในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และได้ออกวิดีทัศน์บันทึกการแสดงสดเพื่อประชาสัมพันธ์อัลบั้มใน ไลฟ์แอตดิโคลอสเซียม ซึ่งถ่ายทำ ณ พูลาอารีนา ประเทศโครเอเชีย นอกจากนี้ อิล ดิโว่ยังจัดคอนเสิร์ตทัวร์ไปยังเมืองสำคัญๆ ทั่วโลกอีกครั้งหนึ่งเพื่อประชาสัมพันธ์อัลบั้มดังกล่าว และได้บันทึกวิดีทัศน์การแสดงสด ณ เมืองบาร์เซโลนา โดยมีกำหนดการออกจำหน่ายวิดีทัศน์บันทึกการแสดงสด ชุด แอนอีฟนิงวิธอิลดิโว่: ไลฟ์อินบาร์เซโลนา ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ในประเทศไทย
อิลดิโว่ (อิตาลี: Il Divo) โดยมีวงออร์เคสตราบรรเลงประกอบอิลดิโว่ประสบความสำเร็จอันดับที่ 1 ในชาร์ตระหว่างประเทศกว่า 26 แห่งยอดขายกว่า 13 ล้านแผ่นได้รับสถานะทองและทองคำขาวกว่า 104 รางวัลทั่วโลกอิล มารีน (เสียงต่ำ) จากประเทศสเปนเดวิดมิลเลอร์ (เสียงสูง) สหรัฐอเมริกาจากเซบาสเตียงอีซองบาร์ (เสียงป๊อป) จากประเทศฝรั่งเศสอูร์สบือร์เลอ (เสียงสูง) จาก [2545-2547] อิลดิโว่คือวงดนตรีในโครงการของไซมอนโคเวลล์ (สหรัฐอเมริกา) และป๊อปไอดอล (สหราชอาณาจักร) โดยใช้เวลากว่า 2 ปีในการคัดเลือกสมาชิกวงอิลดิโว่มีจุดเด่นที่ "เสียง" ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี "รสนิยม" โดยอา ร์มานี่เป็นผู้สนับสนุนเครื่องแต่งกายและ "ความโรแมนติก" อิลดิโว่ลงนามกับโซนี่บีเอ็มจี ดิโว่นี้เริ่มต้นหลังจากไซมอนได้ฟังเพลงของอานเดรอาโบเชลลีและซาร่าห์ไบรท์แมนในบทเพลงคอนเต้ Partiro หรือในฉบับภาษาอังกฤษ "ไทม์ทูเซกู๊ดบาย" (อังกฤษ: เวลาที่จะ ลากล่าวว่า) (ซึ่งสมาชิกวงมาจากสเปน, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา) ซึ่งพยายามให้เสียงเหมือน "เดอะทรีเทอเนอร์" (อันประกอบไปด้วยPlácidoซานโตโดมิงโกJosé Carreras, ลูชิอาโนปาวารอต ติ) สมาชิกทั้ง 4 ประกอบไปด้วยเดวิดมิลเลอร์ (อเมริกัน) เดวิดย้ายมาอยู่นิวยอร์กได้ 10 ปีร้องและเล่นละครโอเปร่ามามากกว่า 45 การแสดง Baz Luhrman ปุชชินี La Boheme เรื่องด้วย, เซบาสเตียงอีซองบาร์ (ฝรั่งเศส) เขาเรียนการร้องเพลงด้วยตนเองสามารถแต่งเพลงเล่นกีตาร์และเปียโนได้ , อูร์สบือเลอร์ (สวิตเซอร์แลนด์) 17 ปีที่เมืองลูเซิร์นบ้านเกิดของเขา การ์โบสมารีน (สเปน) ผ่านเวทีละครโอเปร่ามามากมายโดยได้รับบทเด่นในเรื่อง Les Miserables, ผู้ชายจาก La Mancha และความงามและสัตว์ก้าวแรกแห่งความสำเร็จ [2547-2549] อิลดิ โว่วางจำหน่ายอัลบั้มแรกในชื่ออิลดิโว่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2547 (ในประเทศไทยวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2548) พวกเขาทำลายสถิติกว่า 25 ปีของ Led Zeppelin 1 โดยไม่มีการปล่อยซิงเกิล พ.ศ. 2548 อิลดิโว่วางจำหน่ายอัลบั้มที่ 2 "อังโกร่า" ขึ้นสู่อันดับที่ 1 ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 150,000 แผ่นภายใน 1 ปีในกลางสัปดาห์และอิลดิโว่อัลบั้มออกได้คริสต์มาสคริสต์มาสเดอะเลกชั่นคอนอิ ล 2006 เพลง "เดอะไทม์ออฟอาวเวอร์ไลฟ์" กับโทนี่แบร็กทันนักร้องแนวอาร์แอนด์บีแสดงในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ในการเปิดการแข่งขันและ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ในพิธีปิดการแข่งขันซึ่งเพลงนี้สามารถพบได้ในอัลบั้มวอยซ์ฟรอมเดอะพีฟ่าเวิลด์คัพและอัลบั้มลิบราของโทนีแบรกซ์ตันและในสหราชอาณาจักรนั้นอิลดิโว่แสดงถวายสมเด็จพระราชินีในรายการ "รอยัลวาไรตี้" ในปีเดียวกันนี้ 86 รอบทั่วโลกผู้ชมกว่า 500,000 69 คนในเมืองที่สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, ยุโรปและออสเตรเลีย สตรัยแซนด์ในการแสดงของเธอกว่า 20 การแสดงตลอดเดือนตุลาคมพฤศจิกายนและในปี พ.ศ. ปลาย 2549 อิลดิโว่ได้ออกอัลบั้มที่ 3 ของพวกเขาเซียมเปร "คารูโซ" ในปีเดียวกันนี้อิลดิโว่ได้จัดคอนเสิร์ตทัวร์ 2007 ที่ไปเยือนเอเชีย, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, สหราชอาณาจักร, ยุโรปอเมริกาและการกลับมาของอิลดิโว่ [2551 - ปัจจุบัน] หลังช่วงพัก ร้อนยาวตลอดปี พ.ศ. 2550 อิล เพื่อจำหน่ายในช่วงปลายปี พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 อิล เซลีนดิออนในดับลินอีกด้วยในช่วงปลายปีอิลดิโว่ได้ออกจำหน่ายอัลบั้มใหม่ในชื่อเดอะพรอมิส 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ในญี่ปุ่นวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และประเทศอื่น ๆ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ไลฟ์แอตดิโคลอสเซียมซึ่งถ่ายทำ ณ พูลาอารีนาประเทศโครเอเชียนอกจากนี้อิล และได้บันทึกวิดีทัศน์การแสดงสด ณ เมืองบาร์เซโลนา ชุดแอนอีฟนิงวิ ธ อิลดิโว่: ไลฟ์อินบาร์เซโลนาในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาและในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ในประเทศไทย
การแปล กรุณารอสักครู่..